วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้หาเสียงเลือกตั้ง ปี54

นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้หาเสียงเลือกตั้ง 2554

ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง แต่ละพรรคการเมืองจะต้องมีแนวนโยบายต่างๆ
เพื่อจะใช้เป็นจุดขาย หรือดึงดูดความสนใจ

สำหรับแนวนโยบายหาเสียง ในการเลือกตั้ง ประจำปี 2554 ของพรรคประชาธิปัตย์
อ้างอิงจากเว็บพรรคประชาธิปัตย์ http://campaign.democrat.or.th/policy


ครอบครัวต้องเดินหน้า

1. ไฟฟ้าฟรีถาวร สำหรับผู้ใช้ไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือน
2. จัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด จัดตั้งกองกำลังพิเศษ 2,500 นาย
3. มอบเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ทุกคนทุกเดือน
4. โครงการบ้านมั่นคง (ซ่อมแซม จัดสาธารณูปโภค และสร้างบ้านใหม่)
ของชุมชนแออัดในเมือง และหมู่บ้านทั่วประเทศ
5. บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีอย่างมีคุณภาพ
6. เพิ่มเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 250,000 คน
7. พัฒนาศูนย์เด็กเล็กคุณภาพในทุกพื้นที่


เศรษฐกิจต้องเดินหน้า

1.เพิ่มเงินกำไรอีกร้อยละ 25 จากโครงการประกันรายได้เกษตรกร
(ชาวนา ชาวไร่ข้าวโพด ชาวมันสำปะหลัง)
2.ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 25 ในเวลา 2 ปี พร้อมพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน
3.จัดโฉนดชุมชนให้เกษตรกรมีที่ทำกินอีก 250,000 คน บนที่ดินของรัฐ
4. ปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย และสร้างโอกาสใหม่
แก่ชีวิตของประชาชนให้ครบ 1 ล้านคน
5.ขยายประกันสังคมสำหรับเกษตรกรและแรงงานนอกระบบให้ครอบคลุม 25 ล้านคน
เพื่อรับเงินชดเชยรายได้เมื่อเจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต และบำเหน็จชราภาพ
6.จัดให้มีบำนาญประชาชนหลังอายุ 60 ปี โดยรัฐร่วมสมทบในกองทุนการออมแห่งชาติ
7.พัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างสินค้าและบริการ บนพื้นฐานวัฒนธรรมและ
ภูมิปัญญาไทยที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยงบประมาณ 20,000 ล้านบาท



ประเทศต้องเดินหน้า

1.รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน เชื่อมคุณหมิง ภาคอีสานสู่ภาคใต้เชื่อมต่อไปยังมาเลเซียเพื่อ
พัฒนาการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยว
2.สร้างแหลมฉบังให้เป็นเมืองท่าสมบูรณ์แบบ (Harbor City) พร้อมรถไฟความเร็วสูง เชื่อมกรุงเทพ
แหลมฉบังและระยอง และเครือข่ายโลจิสติก ด้วยเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท
3.พลิกโฉมเมืองท่องเที่ยวตลอดชายฝั่งทะเลภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศ
ไทยเป็น “มนตร์เสน่ห์แห่งเอเชีย” (The Rhythm of Asia) ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาทต่อปี
4.ขยายบรอดแบนด์แห่งชาติ 3G อินเตอร์เน็ทชุมชน สู่ทุกตำบลทั่วประเทศ ภายใน 4 ปี
5.สร้างเขตเศรษฐกิจเกษตรพิเศษ เพื่อจัดระบบการผลิต การแปรรูป และการตลาดสินค้าเกษตรที่มี
มาตรฐานคุณภาพ และมูลค่าสูง
6.เดินหน้าต่อในการบริหารจัดการแหล่งน้ำทั่วประเทศ ขยายพื้นที่ชลประทาน เพิ่มปริมาณน้ำ
อุตสาหกรรม และขยายประปาชุมชน
7.เร่งจัดหาพลังงานทดแทน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจาก พืชพลังงาน ลม แสงอาทิตย์ ชีวภาพ และขยะ


กรุงเทพฯต้องเดินหน้า

1.เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย

มาตรการเพิ่มรายได้

* เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 25 % ภายใน 2 ปี
* ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ
* เบี้ยกตัญญูแก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทุกคน 500 บาทต่อเดือน
* สินเชื้อสร้างอาชีพดอกเบี้ยต่ำ

มาตรการลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน

* ตรึงดีเซล-ก๊าซหุงต้ม
* ค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับครัวเรือนที่ใช้น้อยกว่า 90 หน่วยต่อเดือน
* เรียนฟรี 15 ปี ตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6
* รักษาฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียว

2. กวาดล้างยาเสพติด
เพิ่ม โทษผู้ค้า บำบัดผู้เสพอย่างยั่งยืน
เพิ่ม กองกำลังพิเศษ 2,500 นาย
เพิ่ม กล้องวงจรปิด 200,000 จุด ทั่วกทม.
เพิ่ม ลานกีฬาให้เยาวชนเพื่อต้านยาเสพติด
3. ครอบครัวมั่นคง


* บ้านหลังแรก ดอกเบี้ย 0% 2 ปี ฟรีค่าโอน - จำนอง
* กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา 250,000 คนต่อปี
* แก้หนี้นอกระบบได้แล้วกว่า 460,000 ราย และจะเปิดรับลงทะเบียนรอบที่สอง อีก 1 ล้านราย
* บำเหน็จ บำนาญ ประชาชนทุกคน

4. เดินทางสะดวก

รถไฟฟ้าครอบคลุมพื้นที่ กทม. และปริมณฑล

* รถไฟฟ้า 12 สาย ระยะทางรวม 509 กม. สร้างแล้ว 75 กม.
* เชื่อม กทม.-ปริมณฑล (นนทบุรี-ปทุมธานี-สมุทรปราการ) โดย รถไฟฟ้า 166 กม. ภายใน 5 ปี
* เพิ่มการเชื่อมต่อสนามบินดอนเมือง ให้เกิดความสะดวก เพื่อใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และฟื้นเศรษฐกิจโดยรอบ

พัฒนาสถานีบางซื่อและสถานีมักกะสันเป็นศูนย์คมนาคม เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง
รถเมล์ สะอาด รวดเร็ว ปลอดภัย

* บริการฟรีนักเรียน-คนพิการ-ผู้สูงอายุ
* ปรับเส้นทางเดินรถเชื่อมระบบรางและทางน้ำ

ตั๋วร่วม รถไฟ-รถเมล์-เรือ เดินทางได้ทุกระบบขนส่งมวลชน



เมืองไทย "มนตร์เสน่ห์แห่งเอเซีย"

1. ทุ่มงบประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศให้สมบูรณ์ ด้วยสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานกว่า 60 จังหวัด
2. รอยยิ้มไทย เชื่อมท่องเที่ยวโลก : อบรมบุคลากร-ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกว่า 150,000 คน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมืออาชีพ ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี
3. คุณภาพนักท่องเที่ยว เพิ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพให้มากขึ้น เช่น กลุ่มนิเวศน์ กลุ่มประชุม กลุ่มกีฬา กลุ่มสุขภาพ กลุ่มวัฒนธรรม / ประวัติศาสตร์

เสน่ห์ไทย....เที่ยวเท่าไรไม่มีหมด

* กลุ่มมหัศจรรย์สองสมุทร :
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 2 ฝั่ง อันดามัน-อ่าวไทย พร้อมสิ่งรองรับระดับมาตรฐานโลก เปิดประตูท่องเที่ยวไทยเชื่อมโลก
* กลุ่มอารยธรรมอีสาน - ลุ่มน้ำโขง :
พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวสายอารยธรรมที่เชื่อมต่อวิถีชีวิตลุ่มน้ำโขงอย่างรังสรร
* กลุ่มอารยธรรมล้านนา :
พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานเชื่อมระเบียงเศรษฐกิจ อาเซียน พม่า-จีน
* กลุ่มวิถีลุ่มน้ำเจ้าพระยา :
สืบสานและพัฒนาวิถีไทยให้โดดเด่น “เมืองอู่ข้าวอู่น้ำ”ที่ร่มเย็นเชื่อมต่อมรดกโลกอยุธยา
* กลุ่มท่องเที่ยวชายฝั่งตะวันออก :
ยกระดับมาตรฐานสาธารณูปโภค แหล่งท่องเที่ยวสู่สากล การให้บริการด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ



รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน อีสาน จรด ใต้

เชื่อมเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจแนวเหนือ-ใต้

* ระยะแรก ลงทุน 150,000 ล้านบาท หนองคาย-กทม. เริ่มให้บริการ ปี 2559
* ระยะสอง ลงทุน 230,000 ล้านบาท กทม.-ปาดังเบซาร์ เริ่มให้บริการ ปี 2563


1. เดินทางสะดวกสบายและปลอดภัย

* ลดเวลาเดินทางกว่าครึ่ง
* เลิกทนกับความแออัด ล่าช้า เลิกเสี่ยงกับอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล

2. สร้างรายได้ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น

* เพิ่มการจ้างงานที่ต่อเนื่องกับการลงทุนก่อสร้าง
* นำสินค้าเกษตรไทยสดใหม่ สู่ตลาดจีน แหลมฉบัง มาเลเซีย สิงคโปร์ได้รวดเร็ว
* เปิดตลาดใหม่ ให้ธุรกิจและSME ค้าขายสะดวกขึ้น
* ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน และที่ดินตลอดเส้นทาง

3. สร้างความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถให้เศรษฐกิจไทย

* สร้างความได้เปรียบให้ไทย จากการเป็นศูนย์กลางอาเซียน
* เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดต้นทุน ลดเวลา ลดพลังงาน ลดมลภาวะ



กรุงเทพฯ
เวลาเดินทาง ( ประมาณการ - ชม. )
รถไฟปัจจุบัน
รถทัวร์
รถไฟไทย-จีน(ขั้นต่ำ)
โคราช
6
3
1.15
ขอนแก่น
8
6
2.25
หนองคาย
12.5
10
3
สุราษฎร์ธานี
11
9
3.15
หาดใหญ่
15.5
12
4.7



นโยบายด้านการเกษตร และ การแปรรูป
เพิ่ม กําไร 25%
จากโครงการ
ประกันรายได้ เกษตรกร

* พัฒนาปรับปรุงพันธุ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูง เหมาะแก่การแปรรูป
* ขยายระบบชลประทานให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตร สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ขยายพื้นที่ชลประทานทุกตำบลและหมู่บ้าน
* จัดที่ดินทำกินให้เกษตรกรยากจน เร่งรัดเอกสารสิทธิ์บนที่ดินของรัฐที่ไม่มี
สภาพป่าแล้ว
* ปรับปรุงคุณภาพดิน พื้นที่เกษตรทั่วประเทศ
* ประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญเพื่อเป็นการประกันต้นทุนให้เกษตรกร



เมืองท่าแหลมฉบัง HARBOUR CITY ศูนย์การพัฒนาภาคตะวันออก
เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของเศรษฐกิจไทย

* เป็น ASEAN GATEWAY นำไทยเข้าสู่ระบบการค้าเสรี
* ประชาคมอาเซียน และการแข่งขันสากล
* ลดต้นทุนการขนส่ง/โลจิสติกส์
* สร้างโอกาสใหม่ๆให้ SME และแรงงานไทย

พัฒนา ภาคตะวันออก ของประเทศอย่างยั่งยืน

* สร้างแหลมฉบังเป็นเมืองท่าสมบูรณ์แบบ ( Harbour City )
* พลิกโฉม มาบตาพุด เป็นเมืองอุตสาหกรรมสะอาด ( Eco-Town )
* พัฒนาศักยภาพเมืองพัทยา เป็นศูนย์บริการครบวงจร
o รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจภาคตะวันออก
o พร้อมรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มจากอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูง

ลงทุน 100,000 ล้านบาท สร้างเมืองท่าสมบูรณ์แบบ

1. ปฏิรูปผังเมืองและจัดสภาพแวดล้อมเมืองแหลมฉบังให้สะอาด ครบครัน ด้วยสาธารณูปโภค โรงเรียน โรงพยาบาล รถประจำทาง ระบบน้ำประปา ศูนย์การค้า สันทนาการ และที่อยู่อาศัยเป็นสัดส่วน
2. ปรับโครงข่ายเชื่อมโยงการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ทั้งถนน รถไฟรางคู่ เชื่อมโยงรถไฟไทย-จีน เพิ่มศูนย์บรรจุและคัดแยกสินค้า ( ICD )
3. เพิ่มศักยภาพท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังให้เป็นท่าเรือที่ใหญ่และทันสมัยระดับ มาตรฐานโลก ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยบริหารร่วมกับเอกชน

ยกมาตรฐานการเดินทางสู่ภาคตะวันออก

* สร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง โดยเชื่อมต่อจาก สุวรรณภูมิ และขั้นต่อไป ขยายสู่จันทบุรี-ตราด ( เอกชนลงทุน )
* ปรับปรุงเสริมประสิทธิภาพสนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา

2 ความคิดเห็น :